Saturday, December 12, 2009 9:14 PM
ถ้านับว่า กรอบหน้าต่างนั่น คือการแสดงภาพ
ถ้านับว่า กรอบหน้าต่างนั่น คือการแสดงภาพ
นี่คือการแสดงแบบ 4 มิติ มีตื้น ลึก หนา บาง
มีกลิ่นบรรยกาศลอยมาแตะจมูก มีสัมผัสของลม ที่ลู่ไปตามสันหน้า
มีเสียงประกอบ มีความสั่นสะเทือน
และที่พิเศษสุดคือ นิทรรศการนี้ จะเปลี่ยนการแสดงภาพไปทุก ๆ นาที แบบที่ไม่ทันจะเสพ
นั่นคงจะฟังดูดีเกินไปซินะสำหรับรถไฟไทย ๆ จากวงเวียนใหญ่ไปมหาชัย ต่อด้วยแม่กลอง
ที่ทั้งร้อน ทั้งเหม็น (ถ้าไปนั่งใกล้ส้วม) ทั้งเซ็ง (ถ้าเจอเด็กป่วย) ทั้งเมื่อย (ถ้าแย่งนั่งไม่ทัน)
แต่บางครั้ง คนเมือง ๆ ที่เบื่อรถติด เบื่อสนิทแนบกับคนบนรถไฟฟ้า จะมาทำโรแมนติก
นั่งรถไฟกระฉึกกระฉักเล่น ให้สะเทือนไส้สะเทือนซาง มันก็เพลิดเพลิน เจริญหูเจริญตา
และดัดจริตอยู่ในทีดีแท้
วิวที่เจิดที่สุด คงเป็นภาพนาเกลือกว้างสุดลูกหูลูกตา นอกจากจะปล่อยใจให้โบยบินดั่งนกน้อยแล้ว
ก็แอบอิจฉาเจ้าของที่นา ที่มีที่ดินมากมายไปพลาง ๆ ด้วย ให้นึกน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิตสาวกล่อง
กับพื้นที่นอกระเบียงผืนน้อย ปลูกต้นอะไรได้แค่กระจุ๋มกระจิ๋ม กระเบียดกระเสียรแย่งที่กับราวตากผ้า
ราวกับแม่ค้าที่อยากจะตบกัน
ช่างเถอะ! กลับมาตั้งสติกับหน้าต่างรถไฟ ปล่อยไหลให้มันนำใจ ทำหน้าชี้ชวนชมต่อ
นกกระสา นกกระยาง นกเอี้ยง วัว ควาย กบ เขียดในหนอง
ยังมีอีกหลายสิ่ง หากอยากจะตั้งหน้าตั้งตาอิจฉา
ปลาแห้งปลาเค็มตัวยักษ์ ตลาดคนมอญ พะเนินซากหอย แม่น้ำสีขรึม หมาบนเรือข้ามฟาก
ของราคาถูก คนแถวนี้ก็คงจะชินกับมันซะเต็มประดา อย่ามาทำเป็นตื่นเต้น
ความแปลกใหม่นั่นเอง ที่เป็นเสน่ห์ของชีวิต
เวลาหนึ่งวันสั้น ๆ ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับการชำระล้าง และการหาแรงบันดาลใจ
กับรถไฟฟรี สวัสดีกรุงเทพมหานคร
No comments:
Post a Comment